| 
 สภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่น  ผ่านความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคฟื้นแปซิฟิก (ทีพีพี)  ในวันนี้ (10) ความเคลื่อนไหวที่ถูกมองว่าเป็นท่าทีอันเปล่าประโยชน์  เนื่องจากถูกต่อต้านโดย โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
 ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ผู้สนับสนุนข้อตกลงสมาชิก 12 ชาตินี้  ระบุว่า  มันจะทำให้สหรัฐฯสามารถกำหนดระเบียบการค้าของโลกในขณะที่อิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีนกำลังแผ่ขยาย
 
 แต่ทรัมป์คัดค้านข้อตกลงนี้อย่างรุนแรง และคาดการณ์ว่า อนาคตของมันจะมืดมน
 
 นอกจากญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ทีพีพีประกอบด้วยประเทศอื่นอีก 10 ประเทศ  ได้แก่ ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู  สิงคโปร์ และเวียดนาม หากมันมีผลบังคับใช้อย่างเต็มที่  มันจะคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 ของเศรษฐกิจโลก
 
 ทีพีพีถูกมองว่าเป็นเครื่องมือคานอำนาจกับจีน  ในขณะที่ปักกิ่งกำลังขยายเขตอิทธิพลและส่งเสริมวิธีการทำธุรกิจของพวกเขาเอง  ซึ่งถูกมองว่า  มักขัดกับมาตรฐานโลกของตะวันตกที่ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและเคารพสิทธิมนุษยชน  รวมทั้งสิ่งแวดล้อม
 
 นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ  ทำให้ทีพีพีเป็นส่วนสำคัญในแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจของเขาเพื่อรื้อฟื้นภาคการส่งออกที่สำคัญของประเทศนี้
 
 แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ด้วยชัยชนะของทรัมป์ ข้อตกลงนี้เป็นหมันตั้งแต่เริ่มต้น
 
 “ความหวังในทีพีพีของญี่ปุ่นดับสิ้นและถูกฝังกลบ” Marcel Thieliant นักเศรษฐศาสตร์จาก Capital Economics กล่าว
 
 “ผลลัพธ์นี้คือ ความเสียหายระยะยาวสำหรับญี่ปุ่นจากการที่ทีพีพีไม่ได้มีผลบังคับใช้อีกต่อไปแล้ว”
 
 ทรัมป์ กล่าวว่า เขาสนับสนุนการค้าเสรี  แต่ว่าข้อตกลงที่มีอยู่ตอนนี้ เช่น ความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟตา)  ระหว่างสหรัฐฯ แคนาดา เม็กซิโก ไม่ได้มีการเจรจากันอย่างเท่าเทียม  และไม่ได้รองรับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ
 
 ทำเนียบขาวเตือนว่า ความล้มเหลวในการอนุมัติทีพีพี  จะทำให้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการส่งออกของสหรัฐฯตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการแข่งขันจากจีน
   ข้อมูลจาก ผู้จัดการ ออนไลน์ |